
แค่มี
..............................................................................................................................
..............................................................................................................................
ความทะเยอทะยาน (Ambition) หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า “ ความอยาก ” นั่นเอง เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนที่ยังมีลมหายใจ ถึงแม่จะแผ่วไปบ้างในช่วงนี้ ย่อมมีไอ้เจ้า “ ความอยาก ” นี้อย่างแน่นอน แต่ “ ความอยาก ” ของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน บางคนอยากพอประมาณ แต่บางคนอยากมากจนน่ากลัว
การมี “ความอยาก” ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ “ความอยาก” ที่ว่านี้ ถ้ามีพอประมาณ ก็จะเป็นแรงผลักดันให้เราต่อสู้ มีความฝัน ความหวัง และกำลังใจในการที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ทุกวันนี้คนเรามี “ความอยาก” ที่มากไป โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นที่ทำงานแล้ว มีสิ่งมาล่อ “ต่อมอยาก” ก็คือ ความดีความชอบในแต่ละปี ยิ่งใกล้ช่วงพิจารณาเท่าใด “ต่อมอยาก” ก็จะ “ผลิตฮอร์โมน อยากมาก ๆ” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ (คงเป็นต่อมใต้สมอง) จิตใจก็จะเร่าร้อน ริษยาเมื่อเห็นใครได้ดีกว่า ความอยากที่มากไป ประกอบกับความสามารถที่ไม่เหมาะสมกับความอยากก็ย่อมก็ให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
วิธีคิดง่าย ๆ เราลองประเมินระดับตัวเองก่อนว่าเราอยู่ตรงไหน แค่ไหน ความสามารถเท่าใด อย่าหลอกและหลงตัวเอง แม้เราไม่เท่ากับใครบางคน แต่เราก็ยังดีกว่าคนอีกมากมาย แม้เราไม่เท่าเขาในวันนี้ไม่เป็นไรวันหน้าเราอาจได้ดีกว่าเขาเท่าทวีคูณ ถ้าเรามีความสม่ำเสมอในการทำดี มนุษย์เราถ้ารู้จักทำอะไรที่พอตัว พัฒนาไปตามครรลองของ “ความอยาก” หรือ “ความทะเยอทะยาน” ที่พอเหมาะพอควร โชคชะตาก็จะสร้างทางชีวิตที่สวยงาม ให้เราได้เดินเรื่อย ๆ มีความสุขเต็ม ๆ กับชีวิต ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด จงคิดว่าได้เท่าที่ได้ ชีวิตจะได้ความดี ตอบแทนเมื่อถึงเวลา แล้วเราจะสุขแบบท่วมท้นใจ ดังบทเพลงนี้….
อาจจะมีพร้อม แต่ชีวิตก็ยังวุ่นวาย ยังไม่พอดี ยังไม่พอใจ ถึงได้หนาวกาย และหนาวใจอยู่ดี ......
อาจจะน้อย แต่ไม่ขอให้มีมากมาย มีแค่พอดี มีแค่พอใจ ถึงต้องหนาวกาย แต่หัวใจอุ่นใจอุ่นดี.........
การมี “ความอยาก” ไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ “ความอยาก” ที่ว่านี้ ถ้ามีพอประมาณ ก็จะเป็นแรงผลักดันให้เราต่อสู้ มีความฝัน ความหวัง และกำลังใจในการที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ทุกวันนี้คนเรามี “ความอยาก” ที่มากไป โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นที่ทำงานแล้ว มีสิ่งมาล่อ “ต่อมอยาก” ก็คือ ความดีความชอบในแต่ละปี ยิ่งใกล้ช่วงพิจารณาเท่าใด “ต่อมอยาก” ก็จะ “ผลิตฮอร์โมน อยากมาก ๆ” ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ (คงเป็นต่อมใต้สมอง) จิตใจก็จะเร่าร้อน ริษยาเมื่อเห็นใครได้ดีกว่า ความอยากที่มากไป ประกอบกับความสามารถที่ไม่เหมาะสมกับความอยากก็ย่อมก็ให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน
วิธีคิดง่าย ๆ เราลองประเมินระดับตัวเองก่อนว่าเราอยู่ตรงไหน แค่ไหน ความสามารถเท่าใด อย่าหลอกและหลงตัวเอง แม้เราไม่เท่ากับใครบางคน แต่เราก็ยังดีกว่าคนอีกมากมาย แม้เราไม่เท่าเขาในวันนี้ไม่เป็นไรวันหน้าเราอาจได้ดีกว่าเขาเท่าทวีคูณ ถ้าเรามีความสม่ำเสมอในการทำดี มนุษย์เราถ้ารู้จักทำอะไรที่พอตัว พัฒนาไปตามครรลองของ “ความอยาก” หรือ “ความทะเยอทะยาน” ที่พอเหมาะพอควร โชคชะตาก็จะสร้างทางชีวิตที่สวยงาม ให้เราได้เดินเรื่อย ๆ มีความสุขเต็ม ๆ กับชีวิต ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด จงคิดว่าได้เท่าที่ได้ ชีวิตจะได้ความดี ตอบแทนเมื่อถึงเวลา แล้วเราจะสุขแบบท่วมท้นใจ ดังบทเพลงนี้….
อาจจะมีพร้อม แต่ชีวิตก็ยังวุ่นวาย ยังไม่พอดี ยังไม่พอใจ ถึงได้หนาวกาย และหนาวใจอยู่ดี ......
อาจจะน้อย แต่ไม่ขอให้มีมากมาย มีแค่พอดี มีแค่พอใจ ถึงต้องหนาวกาย แต่หัวใจอุ่นใจอุ่นดี.........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น